ดาราหลายคนเป็นโรคตื่นกลัวผู้คนยามมีชีวิตส่วนตัว เช่นเดียวกับ Stephen Fry หลังจากการให้สัมภาษร์แย่ๆ ใน "Cell Mates in the West End" เขาตระหนกกลัวและวิ่งหนีฝูงชน เป็นเรื่องราวครึกโครม ผู้คนอยากรู้ว่าเขาหนีไปไหนกันแน่ แต่แล้วก็มีคนเจอสตีเฟนที่เบลเยี่ยม ด้วยเหตุการณ์นี้ เขาจึงปรากฎตัวท่ามกลางฝูงชนด้วยกลุ่มอาการไบโพล่าร์ (โรคคนสองบุคลิก)
ในปี 1998 เจสัน เบล ช่างภาพสื่อมวลชนถ่ายรูปของเจสัน ฟราย ลงใน the Sunday Times ซึ่งเป็นภาพที่น่ารักกว่าครั้งแรกที่เคยถ่ายครั้งการให้สัมภาษณ์แย่ๆ ของฟราย เป็นภาพที่ถ่ายค่อนข้างลำบาก เมื่อคุณถูกส่งให้ไปพบใครบางคนในห้องของโรงแรม เจสัน เบล พบว่า มันน่าเบื่อน่าทน ถ้าฉากหลังของภาพเป็นม่านของโรงแรมอันแสนน่าสะอิดสะเอียน ยิ่งมีเวลาสั้นกระจิดริด แถมยังเป็นห้องที่ใช้ถ่ายทำงานอื่น ด้วยการลั่นชัตเตอร์ 5 ครั้ง หลังชนหลังกับช่างภาพคนอื่น ในห้องเดียวกัน ทว่า มันคือความท้าทายอย่างหนึ่ง : คุณจะต้องคิดไอเดียให้ภาพนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ
ในสถานการณ์นี้ เจสัน เบล มักจะไปถึงสถานที่ก่อนและมองหามุมดีๆ "ผมดูคอลัมน์ก่อนแล้วจึงคิด 'มันต้องมีบางอย่างที่นั่นสิ' ผมวางแผนบางอย่างให้คลาสสิกกว่า ; อย่างภาพของสตีเฟน ฟราย ก็ศึกษามาก่อน ผมอยากให้เขาดูสุขุมลุ่มลึก น่าเคารพ" เมื่อเขาคิดคอลัมน์นั้นจนทะลุทะลวงแล้ว เจสัน เบล จำได้ว่าบอกกับสตีเฟน ฟรายว่า "นั่นน่ะ ดูดีแล้ว แต่ตอนนี้ คุณช่วยทำให้ดูกังวลมากกว่านั้นได้ไหม?" ซึ่งเขาทำมันได้ทันที เจสันรู้เลยว่ามันเป็นภาพที่ดี เป็นความบังเอิญที่น่าดีใจ ทว่านั่นเพราะได้ภาพที่ดีกว่า จึงหยิ่มใจ นั่นคือทักษะหลอกล่อให้ได้ภาพที่แตกต่างด้วยรสชาติของเขาเอง บางคนแนะนำให้เจสันเข้าร่วมการแข่งขันถ่ายภาพ และเขาก็ชนะเลิศรางวัล British Picture Editors award
เมื่อคุณถ่ายภาพคนดัง ซึ่งมักมีคลื่นรบกวนโดยรอบ ทั้งนักข่าวสัมภาษณ์ นักข่าวประชาสัมพันธ์ สไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม มันยากมากที่คุณจะอยู่กับคนดังตัวต่อตัว ยิ่งไปกว่า ด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวนั้น พวกเขาจะถูกถ่ายรูปเสียจนช้ำ มันยากมากที่จะได้ภาพแบบใหม่ๆ ติดมือกลับบ้าน
สิ่งที่เจสัน เบล พบสม่ำเสมอ ในวันที่เขาใส่ฟิล์มลงในกล้อง--เขาถ่ายรูปหน้าบุคคลแต่ละครั้ง จะได้ภาพที่เปลี่ยนไปเสมอ เมื่อเขาเพ่งพินิจดูแต่ละรูปให้ละเอียด ดังนั้น จึงพิถีพิถันเลือกใช้กล้องถ่ายรูปเป็นพิเศษและพยายามคิดค้นสร้างสรรค์ภาพ (นั่นคือเทคนิคส่วนตัว) เจสันกล่าวว่า "ผมไม่ใช่ช่างภาพสายนักข่าว ทว่าผมคือผู้เฝ้าสังเกตและผมมันนิสัยเยี่ยงเจ้านาย...มันง่ายมากกว่าเพื่อให้บรรดาคนที่คุณถ่ายรูปเชื่อถือคุณ"
ประวัติ
เกิด : ลอนดอน 1969
ศึกษา : ไม่ได้เรียนถ่ายรูปโดยตรง ทว่า เขาเริ่มจริงจังเมื่ออายุ 14 ปี เมื่อเขาได้รับกุญแจห้องมืด (ห้องล้างภาพ) ของโรงเรียน
แรงบันดาลใจ : Ansel Adams กล่าวเทคนิคไว้ว่า "ผู้คนไม่รบกวนผู้อื่นนานๆ ด้วย การสลัก แกะงานออกมา"
ลับสุดยอด : "ลับเฉพาะเลยนะ ผมมองนักเรียนจำนวนมากทำสิ่งละอันพันละน้อย พวกเขาสนุกสนานอยู่รอบๆ บริเวณนั้น เลือกโปรเจกต์มาสักอย่างและทำงานอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณสนุกที่ได้ทำมัน"