นวนิยายวัยรุ่นเล่มที่จัดอยู่ในท็อป ลิสต์ ติดหิ้งหนังสือนักอ่าน เล่มสำคัญที่สุดเล่มหนึ่งของโลก และยังเป็นต้นแบบนวนิยายวัยรุ่นปัจจุบันอีกหลายเล่ม โดยผู้เล่าเรื่องเป็นเสียงเด็กชายวัยคะนอง คงหนีไม่พ้น "The Catcher in the Rye" เขียนโดย JD Salinger ในเมืองไทยแปลเป็นภาษาไทยโดย ปราบดา หยุ่น ให้ชื่อเรื่องว่า "จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น" สำนักพิมพ์ ไลต์เฮาส์พับลิชชิ่ง
เรื่องที่นำมาเล่าหลังจากประโยคนี้ บีบย่อและถอดความมาจากบทความของนักวิเคราะห์วิจารณ์หนังสือ Robert Mccrum ในคอลัมน์ "Robert Mccrum on books" ใน guardian.co.uk. โรเบิร์ต เมคครัม สันนิษฐานว่า ภาคส่วนสำคัญของ เดอะ แคชเช่อร์ ดิน ดิ ราย ตามที่ Mark Twain (นามปากกาของนักเขียนที่มีชื่อจริงว่า Samuel Langhorne Clemens) กล่าวไว้ พบพรหมแดนใหม่ที่พยายามอย่างมากที่จัดการกับปัญหาหนักยาก ซึ่งเป็นชีวิตของเด็กวัยรุ่นอเมริกันในเมือง ผู้ต่อต้านชีวิตที่ดีตามขนบในช่วงหลังสงคราม
เสียงของ Holden Caufield (ตัวละครหลักของเรื่อง) มาจากซาเลนเจอร์ตัวจริง เขาคือผู้ชายผู้ดูเหมือนไม่เคยหลุดจากหัวจิตหัวใจความเป็นวัยรุ่น นักวิจารณ์หลายต่อหลายคนวิเคราะห์ข้อนี้ไว้เช่นนั้น ทว่า โรเบิร์ต เมคครัม คิดว่า เรื่องราวที่ซาลินเจอร์นำเสนอนั้น อิทธิพลของเรื่องมาจากสไตล์การพูดคุย การชักจูงให้ผู้อื่นสนใจในประเด็นที่ผู้เล่าต้องการนำเสนอ--สไตล์ส่วนตัวของซาลินเจอร์
เมคครัมให้ความสนใจ พุ่งไปในช่วงเวลาการประกอบอาชีพในช่วงสงครามของซาลินเจอร์ รู้กันทั่วว่า เขาเป็นทหารจีไอในปี 1942 ทหารราบ ฐานทัพที่ชายหาดยูทาห์ในวันดีเดย์ เห็นการต่อสู้ในสงคราม "Battle of the Bulge" และเป็นหนึ่งในกลุ่มคนแรกที่ปล่อยนักโทษแคมป์นาซีจำนวนมาก ในทางตรงกันข้าม เขาได้รับประสบการณ์จริงจากสงครามโลกครั้งที่สองอย่างเยอะ
สิ่งที่ซ่อนในความทรงจำแห่งการเป็นทหาร สงครามแท้จริงไม่เคยเข้าไปอยู่ในหนังสือ ทว่า...มันก็โผล่แพลมให้เห็นพอแก้กระหาย ในหน้าที่ 126 ฉบับ New Penquin Edition โฮล์เดนเริ่มพูดเกี่ยวกับพี่ชาย (ดีบี) ผู้ซึ่งเคย...ว่า "ในกองทัพเหี้ยห่าสี่ปี เขาเคยอยู่ในสงครามเช่นกัน ทั้งวันดีเดย์และทั้งนั้นนั่นแหละ ทว่าผมคิดจริงๆ ว่า ผมเกลียดความย่ำแย่ของกองทัพมากกว่าเกลียดสงคราม"
ดังนั้น กองทัพอเมริกันซึ่งจีไอซาลินเจอร์เคยร่วมรบร่วมเป็นหัวหอกและต่อต้านในที และเมื่อเขาจรดปากกาเขียน ดีบีก็เล่าว่า "กองทัพมีทักษะอย่างดี ทั้งยังเต็มไปด้วยคนทุเรศห่วยแตกเหมือนอย่างที่นาซีเคยเป็น" นอกจากนี้ ดีบี--ตัวละครที่ซ่อนความเป็นซาลินเจอร์ สำหรับเมคครัม มันถูกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ถัดลงมา 2 บรรทัด "อัลลีเคยถามเขา (ดีบี) ครั้งหนึ่งว่า มันไม่มีอะไรดีเลยเหรอ ตอนที่ดีบีอยู่ในสงคราม เพราะว่าเขาเป็นนักเขียนและมันมีเรื่องราวให้เขาเขียนได้เยอะแยะ ทั้งแบบพาดพิงบางส่วนหรือเขียนมันทั้งหมดนั่นแหละ" (หน้า 126-127)
บางครั้ง อาจจะเป็นเวลานี้--เมื่อเขาได้ตายไปแล้ว ใครบางคนได้รับอนุญาตให้เขียนอัตชีวประวัติของซาลินเจอร์ และเริ่มขุดข้าวของเขาขึ้นมา พนันได้เลยว่า มันน่าสนใจโคตรๆ (ขอยืมสำนวนซาลินเจอร์นี๊ดนึง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น